เกรียนไทยไปญี่ปุ่น EP.0 : เข้าประเทศปุ๊บ ถูกจับปั๊บ!

เกรียนไทยไปญี่ปุ่น EP.0 : เข้าประเทศปุ๊บ ถูกจับปั๊บ!

โดนจับที่ ตม. ญี่ปุ่นแบบงงๆ ขอเกริ่นก่อนว่าเนื้อหาในที่นี้ เขียนไว้ตั้งแต่ปี 2013-2014 ลงในเฟสบุ๊คส่วนตัวเพื่อรายงานสัญญาณชีวิตให้ผู้ปกครองที่บ้านทราบ (หลายคนอาจเคยเห็นใน Pantip อันนั้นแม่เอาไปลงค่ะ… = =;)

ตกงาน+ช้ำรัก…ก็ไปญี่ปุ่นเลยดิวะ

ตอนนั้นรู้สึกชีวิตพัง ไม่รู้จะเลือกอะไรดี ดนตรีก็ชอบเล่น งานครีเอทีฟโฆษณาก็อยากทำ หาจุดพอดีให้กับตัวเองไม่ได้ ค้นหาตัวเองไม่เจอ บวกกับเพิ่งเลิกกับคนที่คุยกันมานานได้ไม่นาน

สำหรับเด็ก First Jobber อย่างเรา ตอนนั้นก็คิดว่าไม่มีอะไรช้ำใจไปกว่านี้แล้วสินะ (โถๆๆๆ…รู้จักโลกน้อยไปแล้วเจ้าเด็กน้อยเอ๋ย…)

สรุปแล้วก็ออกจากที่ทำงานตอนนั้น และเอาเงินเก็บที่ทำงานมาปีกว่าผลาญไปกับทริปเที่ยวญี่ปุ่นคนเดียว 1 เดือน!! เฮ~~ (เอ็งดีใจอะไรกับอนาคตยาจกฟระ)

ที่เหลือก็…ตามไปอ่านต่อได้ข้างล่างเลยค่ะ 🙂

EP.0 เข้าประเทศปุ๊บ ถูกจับปั๊บ!

การเดินทางไปญี่ปุ่นครั้งนี้ เรียกได้ว่าเป็นการเดินทางออกนอกประเทศคนเดียวเป็นครั้งแรกของกิ๊กกี้เลยก็ว่าได้ แถมโจทย์ยังโหดหิน เพราะไม่ใช่แค่ขึ้นเครื่อง นั่งดอง แล้วลง มีคนมารับฮาเฮเท่านั้น นี่ต้องไป Transit ที่ปักกิ่ง ประเทศจีนด้วย แต่ฟังครั้งแรกกิ๊กก็ว่าเฉยๆนะ ระดับกิ๊กกี้ละ คนอื่นทำได้ ทำไมเราจะทำไม่ได้ฟระ ก็เดินตามๆ เค้าไป เดี๋ยวก็ต้องถึงจนได้สิน่า

เนื่องจากความขึ้นชื่อเรื่องป้ำๆเป๋อๆ สติไม่มั่นคง โก๊ะโป๊ะทึ่ง ก็โดน “สามสาวบิ๊กทรีแห่งบ้านยายนิด” เรียกไปกำชับกันคนละทีเรื่องการเช็คอิน transit ยัน immigration คนละรอบสองรอบ ตั้งแต่แม่กุ้ง ป้าหมู ยันยายนิด จัดกระเป๋าเสร็จถูกแม่มาจัดเข้าจัดออกใหม่อีกไม่รู้กี่รอบ

และยังมีการให้คำแนะนำแก่ลูกผู้ไม่มีเซ้นส์ในการแต่งตัวสำเหนียกขึ้นมานิดนึงว่าเสื้อสีไหนควรใส่กับกางเกงตัวไหนตัวไหน เสื้อทรงไหนควรคู่กับอะไร เราก็อืมๆ รับคำทุกคนอย่างเรียบร้อยไม่มีปัญหา ผ่านการ Orientation ครบถ้วนจากคนทั้งบ้าน \(*0*\)

วันพ่อ…พ่อมาส่งลูกไปเที่ยว อิอิ

ได้เวลาออกเดินทางจริง กิ๊กกี้ก็ฉลุยค่ะ เดินไปเดินมาขึ้นเครื่องสำเร็จ (เย่!) หมดเวรหมดกรรมไปครึ่งทาง นั่งข้างลุงฝรั่งแก่ๆคนหนึ่งไปจนถึงปักกิ่ง อุตส่าห์โชคดีได้นั่งข้างหน้าต่างเพื่อจะได้สำรวจวิวทิวทัศน์รอบนอก แต่เปล่าเลย… หลับตลอดทาง เยี่ยมจริงๆ แต่ไม่เป็นไรน่า เดี๋ยวมีอีกลำให้เราได้สอดส่องนี่หว่า

พอถึงปักกิ่ง ลูกกิ๊กก็ต้องเดินตามทางไป International Transit เนียนไปกับฝูงชน จนมาถึงป้ายๆ หนึ่ง จู่ๆ ทุกคนที่เดินมา ก็นั่งพักกันโซนนั้นกันหมด มีบางคนเดินเข้าไปโซน Immigration ประเทศจีน ซึ่งเราไม่ได้จะเข้านี่หว่า ก็ตามน้ำ คนอื่นนั่งรอตรงนั้น เราก็นั่งรอไปละกัน

ปรับเวลาตามปักกิ่งเรียบร้อยแล้ว ขึ้นเครื่อง 8.05 เหลืออีกตั้ง 2 ชั่วโมง นึกในใจว่าคนเค้าคงรอเวลา Transit มั้ง ถึงมานั่งกันตรงนี้ นั่งซักพัก ซักครู่… กิ๊กก็ผล็อยหลับไป

ตื่นมาอีกที 7.50 น. คร่า!!! หันไปมองซ้ายขวา คนหายกันไปหมดเลย!! เมื่อกี๊ (2 ชั่วโมงที่แล้ว… – -”) ยังนั่งกองกันเต็มไปหมด ในใจตอนนั้นสบถอย่างหยาบคายไปแล้วว่า ‘เ-ี้ย!!!!’ เวรละ อีก 15 นาทีต้องขึ้นเครื่อง กิ๊กก็เลยลองเดินเข้าไปประตูที่ตอนแรกเห็นเค้าเดินเข้าไปโซน Immigration กันเนี่ยแหละ กะจะเข้าไปถามพนักงาน

แต่ก็บังเอิญเหลือบไปเห็นข้างๆ อ่าวเวร มี International Transit อยู่หลืบไกลๆ แล้วแม่งไม่มีป้ายบอกอะไรเลยห๊ะ!! (แต่คนอื่นเค้ารู้กัน เราไม่รู้เองสินะ…) แถมพอวิ่งไปถึงไม่มีคนนั่งทำหน้าที่อยู่ตรงนั้นด้วย เวรซ้ำกรรมซ้อน ต้องเข้าไปเรียก information ให้วอเรียกคนมาทำงาน

เลยรู้ว่าไอ้ตรงที่เราไปนั่งหลับ มันคือที่สำหรับทัวร์หรือคนที่มากันกลุ่มใหญ่ๆ เค้ามายืนรอคนกันให้ครบเพื่อพาเดิน Transit กันต่อไป… โถชีวิต… จะไม่คิดตามน้ำอีกแล้ว (ป๊า คุณแม่ ป้าหมู ยายนิดมาอ่าน คงด่ากิ๊กกันอยู่ในใจ :P) แต่สุดท้ายก็รอดมาได้นะ วิ่งมาราธอนไปถึงเกททันพอดี นึกว่าจะต้องมาติดอยู่จีนอีกเป็นเดือน เกือบร้องไห้แล้วนะเนี่ย T^T

ขึ้นไปนั่งเครื่องบินเสร็จ ได้นั่งข้างหน้าต่างอีกแล้ว ไชโย… แต่ด้วยความเหนื่อยอ่อนจากการออกกำลังกายสุดชีวิตเมื่อครู่ ก็หลับตลอดทาง ตามเคย -..- นั่งดองเหงื่อไปอีกแป๊ป ก็มาถึงญี่ปุ่นซักที! แอร์ญี่ปุ่นช่างน่ารัก วิศวกรเครื่องบินในเครื่องแบบก็หล่อ ขนาดคุณลุงช่วยขนกระเป๋ายังเท่ห์ อรั๊ยยย ช่างเจริญหูเจริญตาเสียจริง กิ๊กเดินอย่างอารมณ์ดี คิดในใจว่าชั้นบรรลุจุดหมายปลายทางแล้วสินะ~ ฮุฮิ~


ท้องฟ้าช่างแสนสวยงาม~

แต่เปล่าเลย… ตอน Immigration กลับชีวิตเน่าหนอนอีกครั้ง เมื่อคุณลุงพนักงานไม่ปล่อยให้กิ๊กเข้าประเทศ แถมโทรเรียกคนมาพาเราไปสอบสวนด้วย! เห่ย เห็นเด็กน้อยคนนี้เป็นอาชญากรหลบหนีเข้าประเทศไปได้ยังไงกัน!

ประเด็นเริ่มมาจาก คุณลุงพนักงานถามกิ๊กว่า ที่อยู่ของคนอ้างอิงในใบ Immigration นี่มันที่อยู่ของใคร? กิ๊กจำได้ดีว่าแม่บอกไว้ตอน Orientation ที่บ้านว่า ถ้าเค้าถามให้ตอบไปว่า “โอก้าซัง โนะ โทโมดาจิ (เพื่อนแม่)” เราก็ฟาดเลยภาษาญี่ปุ่นก็ญี่ปุ่นเถอะ โชว์เสียหน่อย อาคุงลุงพอเห็นพูดญี่ปุ่นได้ปุ๊บ ลุงแกซัดภาษาญี่ปุ่นมาเป็นแถบ แรกๆเราก็พอจับความได้ อ่อ เพื่อนแม่เป็นคนญี่ปุ่นค่ะ แม่เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นค่ะ มาคนเดียวค่ะ แม่อยู่ไทยค่ะ ซักพักพอซัดมาเยอะๆ ก็ฟังไม่รู้เรื่อง

พยายามขอให้ลุงแกพูดอังกฤษ ลุงแกก็พูดภาษาบ้านแม่อยู่นั่นแหละ เราก็เริ่มเบลอไปไม่ถูก เห็นคนอื่นเค้าแค่เปิดสมุดปั๊มๆ แสกนนิ้ว ถ่ายรูปแล้วออก นี่ชั้นต้องมาทอล์คโชว์ไรก็ไม่รู้

จู่ๆกิ๊กก็นึกขึ้นได้ว่าแม่บอกไว้ว่า (เสียงสะท้อน รีเวิร์บเยอะๆ เหมือนผุดขึ้นในความทรงจำ) ‘จำไว้นะลูก ถ้าเค้าถามอะไรเยอะๆ ให้ยื่นจดหมายแผ่นนี้ให้เค้าดู’ กิ๊กก็ลงมือคว้าจดหมายรับรองจากเพื่อนแม่ราวกับโดเรม่อนควักของวิเศษออกมาพลัน! คุณลุงดูกระดาษกิ๊กไปมาอยู่แป๊ปนึง ก็โทรศัพท์หาใครซักคนน้ำเสียงเคร่งเครียด แล้วจู่ๆ ก็มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง
เดินมาพากิ๊กไปห้องสอบสวน! O_o!!?!

เวรละ… นี่เมื่อไหร่ชั้นจะบรรลุภารกิจถึงญี่ปุ่นเนี่ย แต่พอเจอลุงคนนี้สอบสวน กิ๊กก็สงบปากสงบคำเลิกพูดภาษาญี่ปุ่นซักคำเดียวที่รู้จัก พี่แกจะได้ไม่ตอกภาษายุ่นกลับมารัวๆเหมือนลุงคนนั้น และก็ค่อยยังชั่ว… พนักงานคนนี้พูดอังกฤษดีเลยนี่หว่า ได้ความจากลุงว่า เราบอกว่ามาคนเดียว แต่ในกระดาษใบเนี้ยะ มันเขียนว่ามาสองคน อีกคนเนี่ย ชื่อคุณแม่

อ่อ… เราก็เก็ท รู้ละว่าจะต้องตอบอะไร ชื่อคุณแม่ นี่แม่หนู เดี๋ยวแม่หนูตามมาทีหลังค่ะ หนูมาเที่ยวเองก่อน พี่แกก็จิ้มคอมนู่นนี่แปป แล้วก็หันมาพยักหน้าโอเคให้

คาดว่าลุงคนที่แล้วเค้าคงสงสัยเรื่องแม่ เพราะแม่กิ๊กกับกิ๊กคนละนามสกุลกันมั้ง แบบ… เนี่ยแม่จริงหรอ ไม่ใช่ให้ใครพาเข้าประเทศมาแล้วไปขายแรงงานต่างด้าวนะ แต่เค้าก็ไม่ได้ถามขนาดนั้นนะ เราลองเดาๆ ดูเอง เพราะได้ข่าวว่าตั้งแต่เปิดให้ไม่ต้องขอวีซ่า ก็มีแรงงานไทยหายเข้าไปในประเทศเค้าเป็นพันๆ คนแล้ว ซึ่งอีกไม่นานเค้าก็อาจจะยกเลิกการยกเว้นวีซ่าของพวกเราก็เป็นได้…

กิ๊กนั่งมึนๆ เก็บภาพความทรงจำของห้องสอบสวนไปมา ซักพักพนักงานผู้ใจดีก็ปล่อยตัวให้เราเข้าไปประเทศเค้าซะที… TT^TT

ไชโยยยยยยยยย !!!!
Mission Complete!!!!!
\(*0*)/

ถึงญี่ปุ่นอย่างปลอดภัยละค่าาาาาาา~~~~

ป้าจุงโกะ (เพื่อนแม่…) มายืนรอรับพบปะกันอย่างชื่นบาน แต่กว่าจะเสร็จภารกิจก็บ่ายสามตามเวลาญี่ปุ่น วันนี้เลยไม่ได้ทำอะไรนอกจากแวะกินเค้ก แวะมหาลัยป้าจุงโกะ แล้วก็กลับบ้านป้าจุง


แวะกินเค้ก :3


มหาลัยสตรีที่ป้าจุงทำงาน


บ้านป้าจุง น้องๆ หนูๆ เต็มครัว *0*

หลังจากผ่านมหกรรมระทึก ก็ถือซะว่าขอผ่อนคลายซักนิดละกันนะ งุงิ

ก่อนนอนก็กินไม่มากหรอก แค่ Noodle ข้าวห่อ ข้าวปั้น ชอคโกแลต ผลไม้ โกโก้ร้อน กับ ไวน์ขาว 2-3 จิบ แค่นั้นเอง :3


Noodle ฮ้อนๆ หลังฝ่าความหนาวเหน็บ >w<

เฮ้อ~~ บันทึกเสร็จซะที เตรียมนอน -0-!

zZZZZzZZZZzzzZZZZZZ

ในที่สุดการผจญภัยของเราก็จะเริ่มอย่างจริงจังแล้วสินะ!

พรุ่งนี้ Mission แรกที่ต้องทำในญี่ปุ่น ก็คือ

ไปช่วยญาติจัดห้อง…

แถมภาพที่ซุกหัวนอนเล็กน้อย


สะอาดไร้ที่ติ!


ก่อนไปช่วยเค้าจัด จัดการตัวเองก่อนดีไหมกิ๊กกี้!? TwT!?