ย่างเข้าเดือนกันยายนทีไร เรามักจะเห็นเพื่อนๆ แชร์สเตตัสหรือเพลงเกี่ยวกับเดือนกันยา ไม่ว่าจะเป็น Wake me up when September ends – GREEN DAY, September – Earth, wind, and fire หรือ September song เวอร์ชั่นต่างๆ ชินตาจนเป็นเรื่องปกติ
เราเคยสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้เหมือนกัน ว่าทำไมเพลงฝรั่งหลายๆ เพลงในชื่อเพลงต้องมีชื่อเดือนกันยา หรือเพราะอะไรศิลปินฝรั่ง ไม่ว่าจะเป็น John Mayer หรือ Taylor Swift ก็ยังใส่เดือนนี้ลงไปในเนื้อเพลง เลยเอาไปถามถามเพื่อนฝรั่ง บวกกับค้นหาคำตอบเพิ่มดู คำตอบที่ได้ก็ตอบข้อสงสัยของเราก็มีแตกแขนงไปตามชื่อเพลงที่เอามาพูดถึง ลองมาดูกันเลย
ข้อ 1 เพราะเดือนกันยา เป็นเดือนแห่งการเปลี่ยนผ่าน
ประเทศที่มีแต่ฤดูร้อนมากน้อยอย่างพวกเราอาจไม่เข้าใจ แต่สำหรับฝรั่งแล้วเดือนกันยายนถือเป็นเดือนแรกของการเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง อากาศเริ่มเย็นลง ฝนเริ่มตก ใบไม้เริ่มปลิวหล่นจากต้น ผันเปลี่ยนฤดูร้อนที่สดใสจากการออกไปทำอะไรนอกบ้านให้ดูเงียบเหงาลง เป็นโมเม้นท์ที่จับใจและแปรเปลี่ยนให้เป็นอารมณ์ได้หลายอย่าง
ข้อ 2 คู่รักวัยรุ่นจะได้กลับมาพบกัน
ในส่วนของความรักวัย Puppy Love นั้น มีที่มาอยู่ว่า ช่วงเดือนมิถุนายนจะเป็นเดือนจบปีการศึกษา ทำให้คู่รักที่กำลังคลิกกัน ต้องพักครึ่งปิดเทอม แยกย้ายกันกลับไปอยู่บ้าน อดใจนับถอยหลังรอเดือนกันยาเพื่อจะได้กลับมาพบรักหวานชื่นกันต่ออีกซีซั่น
ข้อ 3 ออกเสียงง่าย มีแค่ 3 พยางค์
จริงๆ แล้วถ้าพูดถึงเดือนแห่งความรัก เรามักจะนึกถึง February เป็นอันดับต้นมากกว่า September แต่ในทางของเพลง ศิลปินกลับรักที่จะพูดถึง September มากกว่า นั่นก็เพราะการออกเสียงของคำว่า September ลงตัวมากกว่าเดือนอื่นๆ February อาจต้องมีการม้วนลิ้นเพื่อออกเสียง ทำให้การร้องถ้อยคำไม่ลื่นไหลเท่าที่ควร
สำหรับ October, November, December ก็ลงตัวเหมือนกัน เช่น Back to December – Taylor Swift (อ๊ะ ในเพลงนี้ก็แอบมีคำว่า September นะ) แต่การออกเสียงสั้นยาวและเมโลดี้ของคำว่า September มันลงตัวที่สุดเมื่อเข้าไปอยู่ในบทเพลง
ข้อ 4 คล้องกับคำอื่นง่าย และให้ความรู้สึกในเชิงกวี
เดือนกันยายนกลายเป็นเครื่องหมายของเดือนแห่งความเศร้าหมองในทางกวี ในขณะเดียวกันก็ยังคล้องจองง่ายกับคำที่ให้ความหมายถึงการหวนระลึกความหลังอย่าง “remember” อีกด้วย
ข้อ 5 ตรงกับเหตุการณ์ความสูญเสียครั้งใหญ่
หลายๆ คนคงเคยได้ยินเพลง Wake me up when september ends ของ GREEN DAY เพลงนี้กล่าวถึงเรื่องส่วนตัวของ Billie Joe Armstrong นักร้องนำที่สูญเสียคุณพ่อไปในเดือนกันยายน ปี 1982 ตอนเขาอายุได้ 10 ปี ซึ่งเป็นเดือนเดียวกับการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของคนอเมริกันในเหตุการณ์ก่อการร้าย 9/11
เพลงนี้จึงเชื่อมโยงคนฟังให้นึกถึงความสูญเสียทั้งของผู้แต่งและของครอบครัวผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ ที่เมื่อเดือนนี้ย่างเข้ามาเมื่อไหร่ ก็ต้องหวนกลับไปนึกถึงเรื่องเหล่านั้นทุกที
สำหรับคนไทยอาจจะไม่คุ้นชินกับวัฒนธรรมที่แอบแทรกอยู่ในบทเพลง สำหรับเราแล้วเดือนกันยายนนี่แอบกร่อยเบาๆ เพราะไม่มีวันหยุดยาวให้ไปกระโดดโลดเต้นที่ไหนเลย (ฮือ…) แต่จริงๆ ก็อาจจะดีก็ได้นะถือเป็นเดือนสุดท้ายที่ฝนจะตก ก่อนเข้าสู่หน้าหนาวที่หาความหนาวได้ยากในเมืองไทย
ใครจะลองเอาไปแต่งเพลงก็ได้นะ
ไหนขอสักชื่อซิ!
